วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558
บันทึกอนุทินครั้งที่ 9
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี...24....มีนาคม..2558...ครั้งที่...9..เวลาเรียน..08.30 - 12.20.... น
ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากสอบเก็บคะแนน
วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558
บันทึกอนุทินครั้งที่ 8
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี...17....มีนาคม..2558...ครั้งที่...8..เวลาเรียน..08.30 - 12.20.... น
สิ่งที่ได้รับความรู้ในวันนี้
การเรียนการสอนในวันนี้เป็นการเรียนในเรื่อง การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กปฐมวัย
(ทักษะการช่วยเหลือตนเอง) จุดประสงค์หลักเพื่อ ให้เด็กใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ คือ สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเอง ,ส่งเสริมให้เด็กช่วยเหลือตนเองได้ , ส่งเสริมให้เด็กทำสิ่งต่างๆได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้อื่น , เรียนรู้การดำรงชีวิตโดยอิสระให้มากที่สุด เช่น การกินอยู่ การแต่งตัว การเข้าห้องน้ำได้ด้วยตนเอง และ การใช้กิจวัตรประจำวัน
การสร้างความอิสระ
- เด็กอยากช่วยเหลือตนเอง ครูต้องเปิดโอกาสให้เด็กทำงานหรือสิ่งต่างๆเอง ต้องมีไหวพริบและแก้ปัญหาให้เป็น หากเวลาผ่านไปซักพักเด็กยังทำไม่ได้ครูก็อาจจะเข้าไปแนะนำหรือช่วยเหลือ การให้งานกับเด็ครูควรดูความสามารถและพัฒนาการของเด็กว่าเด็กจะทำได้หรือเปล่า ไม่ควรให้ทำงานหรือกิจกรรมที่ยากเกินไป ถ้าเด็กทำงานหรือกิจกรรมต่างๆได้ด้วยตนเองเด็กจะเกิดความภาคภูมิใจ และจะมีกำลังใจในการทำงานชิ้นต่อไป ความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กพิเศษ ครูต้องให้เด็กทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง เชื่อมั่นในตัวเด็กและพูดให้เด็กมีความเชื่อมั่นในตนเองว่าเขามีความสามารถ เขาทำได้ และเรียนรู้ความรู้สึกที่ดีของกันและกัน
- เด็กเลียนแบบการช่วยเหลือตนเองจากเพื่อน เด็กที่โตกว่าหรือผู้ใหญ่ เช่น ในการทำกิจกรรมในห้อง เด็กพิเศษจะมองดูเด็กปกติแล้วตนเองก็นำมาใช้เอง เด็กปกติจึงเปรียบเสมือนครูของเด็กพิเศษ
หัดให้เด็กทำเอง
- ไม่ช่วยเหลือเกินความจำเป็น (ใจแข็ง) ไม่โอ๋เด็กมากเกินไป เด็กให้ช่วยเหลือเรื่องอะไรก็ทำแค่นั้นอย่าทำนอกเหนือความต้องการของเด็ก เพราะผู้ใหญ่มักทำสิ่งต่างๆให้เด็กมากเกินไปแม้กระทั่งสิ่งที่เด็กสามารถทำได้เอง หากให้เวลาเด็กทำ เด็กก็จะทำได้ ครูหรือผู้ใหญ่ควรใจเย็นและ รอให้เด็กทำสิ่งต่างๆเอง แม้บางครั้งอาจจะช้ากว่าเด็กบางคนก็ตาม และไม่ควรว่าเด็ก "หนูทำช้า" "หนูยังทำไม่ได้" เพราะจะทำให้เด็กไม่มั่นใจในตนเองและไม่อยากทำต่อ ควรปล่อยให้เด็กทำหากเด็กทำเสร็จเด็กก็จะรู้สึกภูมิใจ ดีใจ
จะช่วยเมื่อไหร่
- เวลาที่เด็กไม่อยากทำอะไร หงุดหงิด เบื่อ ไม่ค่อยสบาย
- หลายครั้งที่เด็กขอความช่วยเหลือในเรื่องที่เด็กเรียนรู้ไปแล้ว
- เด็กรู้สึกว่ายังมีผู้ใหญ่ที่พึ่งได้ แต่ต้องช่วยเหลืองในเรื่องที่เด็กต้องการ
- ช่วยในช่วงกิจกรรม
ทักษะการช่วยเหลือตนเองในแต่ละช่วงวัย
ลำดับขั้นในการช่วยเหลือ
- แบ่งทักษะการช่วยเหลือออกเป็นขั้นย่อยๆ
- เรียนลำดับตามขั้นตอน
- การย่อยงาน เช่น
สรุป
- ครูต้องพยายามให้เด็กทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง
- ย่อยงานแต่ละอย่างเป็นขั้นๆ
- ความสำเร็จชิ้นเล็กๆนำไปสู่ความสำเร็จทั้งมวล
- ช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตนเอง
- เด็กพึ่งตนเองได้รู้สึกเป็นอิสระ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
- มิติสัมพันธ์
- คณิตศาสตร์
- การกะระยะ
- ความสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
- กล้ามเนื้อมัดเล็ก
- สมาธิ
- ด้านสังคมการทำงานเป็นทีม
- การวางแผน
- ความคิดสร้างสรรค์
- สามารถนำไปสอนเด็กปฐมวัยได้
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- นำความรู้ที่ได้ไปใช้กับเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
- เพื่อเข้าใจเด็กพิเศษและจัดการเรียนการสอนอย่างถูกหลัก
- เพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมพัฒนาการด้านการช่วยเหลือตนเองของเด็กอย่างถูกวิธี
- นำไปบอกเพื่อนหรือผู้ปกครองที่ยังไม่รู้ในบางเรื่อง
- เข้าใจธรรมชาติและพฤติกรรมของเด็กพิเศษและเด็กปกติ
- วางแผนการจัดการเรียนสำหรับเด็กพิเศษไว้ล่วงหน้าหากเจอสถานการณ์จริง
- ใช้ในการปฏิบัติตนหากในอนาคตเจอสถานการณ์เหล่านี้
- ใช้ในการเขียนแผน IEP ให้กับเด็พิเศษ
- นำเรื่องการย่อยงานไปใช้กับเด็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ประเมินตนเอง
- เข้าเรียนตรงต่อเวลา
- แต่งกายเรียนร้อย
- ตั้งใจฟังอาจารย์สอน
- ตั้งใจจดบันทึกระหว่างเรียน
- คุยเก่งมากเหมือนเดิม
- ตั้งใจทำกิจกรรมในห้องเรียนมากกก
- เพลิดเพลินกับการเรียน
ประเมินเพื่อน
- เข้าเรียนตรงต่อเวลาแต่ก็มีมาสายบ้าง
- แต่งกายเรียบร้อย
- ตั้งใจทำกิจกรรมในห้องมีการวางแผนก่อนทำเป็นอย่างดี
- ขณะทำกิจกรรมก็ช่วยเหลือเพื่อน
- ตั้งใจฟังอาจารย์สอน
ประเมินอาจารย์
- เข้าสอนตรงเวลา
- แต่งกายสุภาพเรียบร้อย น่ารัก
- สอนเข้าใจอธิบายเห็นภาพมาก
- ชอบที่อาจารย์ยกตัวอย่าง
- มีกิจกรรมที่แปลกใหม่และน่าสนใจมาให้ทำ
- มีเกมทายใจ ตลกๆ ฮาๆ ขำมาให้คลายเครียด ชอบค่ะ
- อยากให้อาจารย์นำกิจกรรมเยอะๆและแปลกใหม่มาให้ทำค่ะ
- ไม่อยากให้อาจารย์เศร้าเลยค่ะ และไม่อยากให้อาจารย์เล่าเรื่องเศร้าๆก่อนเรียนเพราะไม่มีจิตใจจะเรียน และเช้าวันอังคารไม่อยากให้อาจารย์เครียด เพราะเหมือนวันนั้นอาจารย์จะต้องเครียดทั้งวันแน่เลยค่ะ...ยิ้มๆๆนะคะ อาจารย์เบียร์ สู้ๆๆๆ^^^^^
วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2558
บันทึกอนุทินครั้งที่ 7
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี...10....มีนาคม..2558...ครั้งที่...7..เวลาเรียน..08.30 - 12.20.... น
สิ่งที่ได้รับความรู้ในวันนี้
การเรียนการสอนในวันนี้เป็นการเรียนเรื่อง การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ
(ทักษะภาษา) ห้องเรียนที่มีการส่งเสริมทักษะทางภาษา เช่น มีตัวหนังสือ ตัวเลขติดตามห้อง มีเพลง มีคำคล้องจอง มีคำศัพท์ เป็นต้น
การวัดความสามารถทาภาษา
การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่
การวัดความสามารถทาภาษา
- เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
- ตอบสนองเมื่อมีคนอื่นพูดด้วยไหน
- ถามหาสิ่งต่างๆไหม
- บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม
- ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่
- ครูหรือผู้ใหญ่ไม่ควรสนใจการพูดติดขัด การพูดไม่ชัดของเด็ก และห้ามบอกเด็กว่า “พูดช้า” “ตามสบาย” “คิดก่อนพูด” และอย่าขัดจังหวะเวลาเด็กพูดเพราะขัดจังหวะจะทำให้เด็กไม่มีความ มั่นใจในการพูดครั้งต่อไป
- ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น การเปรียบเทียบเป็นสิ่งที่ไม่ดีและคนเป็นครูไม่ควรที่จะเปรียบเทียบเด็กไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เพราะจะทำให้เด็กขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่กล้าแสดงออกและเด็กก็จะเกิดปมในใจ
- เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวเนื่องจากการได้ยินครูควรสังเกตพฤติกรรมเด็กไปเรื่อยๆ หาวิธีแก้ไขและส่งเสริม หาสาเหตุที่แท้จริง และครูก็อย่าด่วนสรุปการพูดไม่ชัดของเด็กไปเอง เพราะเด็กอาจจะได้ยินเสียงผิดปกติ หรือลิ้นไก่สั้นก็เป็นได้
ทักษะพื้นฐานทางภาษา
- ทักษะการรับรู้ภาษา
- การแสดงออกทางภาษา
- การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด
- หากเด็กพิเศษทำได้ 2 ข้อ ถือว่าเก่งมาก
ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย
- การรับรู้ภาษามาก่อนการแสดงออกทางภาษา การเข้าใจสีหน้าแบะแววตา
- ภาษาที่ไม่ใช่คำพูดมาก่อนภาษาพูด ภาษาท่าทาง กิริยาอาการที่แสดงออกมา
- ให้เวลาเด็กได้พูด รับฟังความคิดเห็นของเด็ก เปิดโอกาสให้เด็ได้แสดงออกทางความคิดผ่านการพูดหรือผลงาน
- คอยให้เด็กตอบ(ชี้แนะหากจำเป็น) ขณะทำกิจกรรมหรือทำเสร็จครูอาจจะใช้คำถามให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นของเขา หากเด็กยังตอบไม่ได้ครูก็อาจจะชี้แนะแนวทางเพื่อให้เด็กมั่นใจที่จะตอบมากยิ่งขึ้น
- เป็นผู้ฟังที่ดีและโตตอบอย่างฉับไว เมื่อเด็กแสดงความคิดหรืออวดผลงานของตนเอง ครูควรที่จะชมทันทีและไม่พูดยาวเกินไปพูดแค่สิ่งที่เด็กต้องการที่จะสื่อสารกับเรา หรือครูไม่ควรพูดมาก
- เด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังอย่างเดียว อาจจะเรียนรู้ผ่านภาพ ผ่านเสียงเพลง การการสนทนา ผ่านตัวหนังสือที่แปะตามห้องเรียน เป็นต้น
- ให้เด็กทำกิจกรรมกลุ่ม เด็กพิเศษจะเลียนแบบเด็กปกติ เด็กปกติเปรียบเสมือนครูของเขา เด็กพิเศษจะดูแล้วก็ทำตาม
- การกระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง (ครูไม่ควรคาดการณ์ล่วงหน้า)
เช่น การใส่ที่คาดผม เด็กกำลังใส่ที่คาดผมอยู่
- เข้าไปหา แล้วถามว่า "หนูกำลังทำอะไรอยู่คะลูก"
- หนูกำลังใส่ที่ คาดผม อยู่ใช่ไหมลูก
- ถ้าเด็กยังไม่ตอบ
- ให้ครูช่วยใส่ที่ คาดผม ไหมลูก (พูดที่คาดผมบ่อยๆ)
- ถ้าเด็กยังไม่พูด ครูจับมือเด็กแล้วใส่ให้เลย
ความรู้ที่ได้รับจากการดูวีดีโอ ผลิบานผ่านมือครู โรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยภูมิ
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
- ทำให้เด็กมีสมาธิรู้จักการรอคอย
- มีทักษะการฟังมากยิ่งขึ้น
- กิจกรรมมีเพลงมีท่าทางประกอบเพื่อฝึกสมาธิ
- ใช้กิจกรรมเพื่อเรียกสมาธิตอนเช้าก่อนเข้าสู่กิจกรรมอื่น
- สำหรับเด็กพิเศษ มีห่วงมาร่วมกิจกรรมใช้เป็นเงื่อนไขในการทำกิจกรรม จาก 1 วงเพื่อขึ้นเรื่อยๆเพื่อความยากในการกระโดด ฝึกให้เด็กกระโดดจนกระโดดเก่ง เมื่อเด้กทำได้เขาจะเกิดความภูมิใจและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
- การกระโดดเป็นการฝึกการกะระยะฝึกความสัมพันธ์ระหว่างตา
งานศิลปะเพื่อเรียนสมาธิ
เปิดเพลงจังหวะดนตรีเบาๆ แล้วให้เด็กจับคู่กัน 2 คน แจกกระดาษ 1 แผ่นและหยิบสีคนละ 1 แท่ง แล้วลากสีเป็นรูปทรงเหลี่ยมมีมุม ห้ามมุมหักและเป็นรูปวงกลม และห้ามยกมือขึ้นจนกว่าเพลงจะจบ
เมื่อเพลงจบ ให้เด็ดระบายสีตรงมุมที่มีช่าวงว่างหรือตัดกัน
สิ่งที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
เปิดเพลงจังหวะดนตรีเบาๆ แล้วให้เด็กจับคู่กัน 2 คน แจกกระดาษ 1 แผ่นและหยิบสีคนละ 1 แท่ง แล้วลากสีเป็นรูปทรงเหลี่ยมมีมุม ห้ามมุมหักและเป็นรูปวงกลม และห้ามยกมือขึ้นจนกว่าเพลงจะจบ
เมื่อเพลงจบ ให้เด็ดระบายสีตรงมุมที่มีช่าวงว่างหรือตัดกัน
สิ่งที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
- มิติสัมพันธ์
- ฝึกสมาธิ
- พัฒนาอารมณ์และจิตใจ
- พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก
- ความสัมพันธ์ระหว่างมือและตา
- ความคิดสร้างสรรค์
- ด้านภาษา
- ด้านสังคมการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- ใช้ในการส่งเสริมทักษะทางภาษากับเด็กปฐมวัยอย่างถูกวิธี
- เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะทางภาษา
- ใช้กับตัวเองเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและเตือนตนเองอยู่เสมอ
- ใช้ในการเข้าใจความแตกต่างและธรรมชาติของเด็ก
- ใช้ในการฏิบัติตนเมื่อเป็นครูสอนเด็กพิเศษในอนาคต
- ใช้ในการจัดกิจกรรมให้เหมาะกับเด็ก
- ใช้ในการปรับพฤติกรรมและให้แรงเสริมที่ถูกต้องกับเด็กปฐมวัย
- ใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในสถานการณ์ต่างๆ
- ใช้ในการปฏิบัติให้เป็นครูที่ดี มีความรู้และเป็นที่รักของเด็ก
- นำไปบอกต่อกับผู้ปกครองหรือเพื่อนที่ยังไม่รู้ในเรื่องของเด็กพิเศษ
ประเมินตนเอง
ประเมินเพื่อน
ประเมินอาจารย์
- เข้าเรียนตรงต่อเวลา
- แต่งกายเรียนร้อย
- ตั้งใจฟังอาจารย์สอน
- ตั้งใจจดบันทึกระหว่างเรียน
- คุยเก่งมาก
- ตั้งใจทำกิจกรรมในห้องเรียน
- ร้องเพลงได้อย่างไพเราะ
- เพลิดเพลินกับการเรียน
- เมื่อมีจำนวนคนเรียนเพิ่มขึ้นรู้สึกแปลกๆ
ประเมินเพื่อน
- เข้าเรียนตรงต่อเวลาแต่ก็มีมาสายมาก
- แต่งกายเรียบร้อย
- ตั้งใจทำกิจกรรมในห้อง
- ตั้งใจฟังอาจารย์สอนและตั้งใจร้องเพลงกันทุกคน
- เสียงดัง
ประเมินอาจารย์
- เข้าสอนตรงเวลา
- แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
- สอนเข้าใจอธิบายเห็นภาพมาก
- ชอบที่อาจารย์ยกตัวอย่าง
- มีกิจกรรมที่แปลกใหม่และน่าสนใจมาให้ทำ
- อยากให้อาจารย์นำกิจกรรมเยอะๆและแปลกใหม่มาให้ทำค่ะ
- ไม่ชอบให้อาจารย์ยืนกลางห้องเพราะอาจารย์จะมองไปแต่ข้างหน้าอบากให้อาจารย์ยืนหน้าห้องที่ทุกคนสามารถมองเห็นหน้าอาจารย์ เพราะถ้าหนูมองไม่เห็นหน้าอาจารย์หนูก็จะคุยอย่างเดียว...คริคริ
วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558
บันทึกอนุทินครั้งที่ 6
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี...3....มีนาคม..2558...ครั้งที่...6..เวลาเรียน..08.30 - 12.20.... น
สิ่งที่ได้รับความรู้ในวันนี้
การเรียนการสอนในวันนี้เรียนเรื่อง การส่งเสริมทักษะทางด้านต่างๆของเด็กพิเศษ (ทักษะทางสังคม)
ทักษะทางสังคม
- เด็กพิเศษที่ขาดทักษะทางสังคม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากพ่อแม่
- ปรับพฤติกรรมทางสังคมต้องปรับที่ตัวเด็กเอง
- ทักษะทางสังคมไม่เกี่ยวเนื่องที่ตัวเด็กจะขึ้นอยู่ที่ตัวเด็กเอง
กิจกรรมการเล่น
- การเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ทักษะทางสัมคม
- การเล่นเป็นการฝึกการเข้าสังคมอย่างหนึ่งของเด็กเพราะเด็กจะเล่นด้วยกัน
- การเล่นของเด็กพิเศษจะเลียนแบบเด็กปกติ
- ครูอย่าตำหนิเด็ก
- ครูควรสร้างจุดเด่นให้เด็กพิเศษหากเด็กคนอื่นไม่ให้เด็กพิเศษไปเล่นด้วย เช่น อวดของเล่นที่เด็กพิเศษมีอยู่
ยุทธศาสตร์การสอน
- ครูเริ่มต้นด้วยการสังเกตเด็กแต่ละคนอย่างเป็นระบบ
- ครูต้องจดบันทึกพฤติกรรมของเด็กพิเศษ
- ทำแผน IEP
- ครูต้องเข้าใจเด็กแต่ละคนอย่างถ่องแท้
การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง
- ครูต้องวางแผนกิจกรรมการเล่นใว้เป็นอย่างดี แต่ละกิจกรรมต้องคำนึงถึงเด้กทุกคน การแบ่งกลุ่มควรจะให้เด็กพิเศษเข้าไปอยู่ในกลุ่มกับเด็กปกติ ถ้ามีเด็กปกติ 4คน ควรจะมีเด็กพิเศษ 2 คน ห้ามมีมากไปกว่านี้เพราะจะเกิดความวุ่นวาย การทำกิจกรรมกลุ่มเด้กปกติเปรียบเสมือนครูคอยช่วยเหลือเด็กปกติ แต่ครูก็ต้องดูแลอยู่ใกล้ๆและเข้าไปประคองมือเด็กในการทำกิจกรรม ทำบ่อยๆเดี๋ยวเด็กก็จะทำเป็นเอง
- ขณะให้เด็กทำกิจกรรมครูควรเผ้ามองอย่างสนใจและเดินรอบๆห้องบริเวณที่เด็กนั่งเป็นกลุ่ม ถ้าหากครูต้องเข้าไปนั่งบริเวณกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ครูก็ไม่ควรที่จะหันหลังให้อีกกลุ่มหนึ่ง เพราะเด็กจะคิดว่าครูไม่สนใจเขา
ครูปฏิบัติอย่างไรขณะเด็ดเล่น
- การให้แรงเสริมครูก็ไม่ควรที่จะชมออกหน้าออกตา ควรที่จะยิ้มหรือผยักหน้ารับ หากการทำกิจกรรมใกล้จะจบลงหรือเด็กเริ่มเบื่อครูก็สามารถยืดกิจกรรมได้โดยการเอาวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่ม
- การแจกวัสดุอุปกรณ์การเล่นให้เด็กควรแจกครึ่งนึงในจำนวนเด็ก เพราะ เด็กจะได้รู้จักการรอคอย การแบ่งปัน ถ้ามีครบจำนวนเด็กก็จะเต่างคนต่างเล่น
- ครูควรพูดชักชวนให้เด็กร่วมเล่นกับเพื่อน ทำโดยการพูดชักนำของครู
- เด็กทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ครูต้องไม่ใช้ความบกพร่องของเด็กเป็นเครื่องต่อรอง
- การทำกิจกรรมต้องสร้างข้อตกลงทุกครั้ง
กิจกรรมสำหรับเด็กพิเศษและเด็กปกติ
กิจกรรมคู่ ให้เด็กเลือกหยิบสีที่ตนเองชอบมาคนละ 1 สี ให้เด็กเลือว่าตนเองจะลากเส้นหรือจุด ครูเปิดเพลงให้คนที่ลาก ลากไปเรื่อยๆห้ามยกมือขื้นให้ลากเป็นเส้นเดียว และคนจุดก็จุกตามเส้นตัดที่เป็นวงกลม
เป็นกิจกรรมที่ฝึกสมาธิ และการบริหารกล้ามเนื้อมือ กล้ามเนื้อมัดเล็ก พัฒนาอารมณ์และจิตใจ ทำให้เด็กอารมณ์ดี เพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และช่วยการส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
กิจกรรมการร้องเพลง
ประเมินเพื่อน
ประเมินอาจารย์
- เข้าสอนตรงเวลา
- แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
- สอนเข้าใจอธิบายเห็นภาพมาก
- ชอบที่อาจารย์ยกตัวอย่าง
- มีกิจกรรมที่แปลกใหม่และน่าสนใจมาให้ทำ
- อยากให้อาจารย์นำกิจกรรมเยอะๆและแปลกใหม่มาให้ทำค่ะ
บันทึกอนุทินครั้งที่ 5
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี...17..กุมภาพันธ์..2558...ครั้งที่...5..เวลาเรียน..08.30 - 12.20.... น
สิ่งที่ได้รับความรู้ในวันนี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)