วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทินครั้งที่ 3



                                                                 บันทึกอนุทิน

                        วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย

                                             อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน

                วัน/เดือน/ปี...27..มกราคม..2558...ครั้งที่...3..เวลาเรียน..08.30 - 12.20.... น

สิ่งที่ได้รับความรู้ในวันนี้

                        การเรียนการสอนในวันนี้เป็นการเรียนเรื่อง บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม  
ก่อนเข้าสู่การเรียน ได้ทำกิจกรรมการวาดภาพเหมือนโดยวาดภาพดอกทานตะวัน ที่บานสะพรั่งอยู่กางทุ่ง และดิฉันได้วาดภาพออกมาได้อย่างสวยงามแต่ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ค่ะ
                       การวาดภาพเหมือน ก็เปรียบเสมือนการเป็นครูที่มีเด็กพิเศษและเด็กปกติเรียนอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน ครูจะต้องเป็นผู้ที่เก็บลายละเอียดของเด็กได้เป็นอย่างดี เหมือนกับการวาดภาพเหมือน ที่เราจะต้องเก็บทุกลายละเอียดของภาพเพื่อที่จะให้เหมือนกับของจริง

                      เว็บแรกที่มองภาพ คุณเห็นอะไร???

                                              แสงสีทอง   สาดส่องทานตะวัน
                                         เหมือนใจฉัน   เบ่งบานอยู่กลางทุ่ง





ครูไม่ควรวินิจฉัย
  • การวินิจฉัย หมายถึง การตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่าง
  • จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
  • เมื่อครูสงสัยก็ไม่ควรไปฟันธงเด็ก
ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
  • เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
  • ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
  • เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
  • ทำให้เด็กรู้สึกแย่
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ
  • พ่อแม่ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
  • พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
  • ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก แต่ต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
  • ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้ เช่น วันนี้น้องระบายสีได้ด้วยนะคะ แต่น้องกำสีแน่นเกินไปค่ะ
  • ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
  • ครูไม่ควรเชื่อผู้ปกครองว่าเด็กไม่ปกติ
  • ครูไม่ควรเอาจุดด้อยของเด็กไปบอกพ่อแม่
ครูทำอะไรบ้าง
  •  ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
  •  ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
  •  สังเกตเด็กอย่างมีระบบ      ครูสังเกตเด็กเป็นระบบได้ดีเพราะครูอยู่กับเด็กตลอดเวลา เห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆระหว่างทำกิจกรรมและเห็นเด็กตั้งแต่เช้ายันเย็น
  •  จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆเช่น ระหว่างทำกิจกรรม
-  แบบสังเกตพฤติกรรมเด็ก ใช้กับเด็กที่คิดว่ามีพฤติกรรมน่าสงสัย
-  มองเด็กให้เป็นภาพรวมก่อนเช่นมองน้องทามซัก 1 สัปดาห์ ค่อยมาบันทึก
-  เมื่อเจอพฤติกรรมที่ต้องแก้ไข   แก้ไขในสิ่งที่สำคัญสุด ,แก้ไขให้ตรงจุด,มองข้ามสิ่งเล็กน้อย เช่นนอนกอดตุ๊กตา

การตรวจสอบ
  • ทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
  • เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
  • บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ

ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
  • ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
  • ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
  • พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
การบันทึกการสังเกต
  • การนับอย่างง่ายๆ นับจากการทำพฤติกรรม เช่น 1 วันทำพฤติกรรมแบบนี้กี่ครั้ง
  • การบันทึกต่อเนื่อง สำคัญสุดมีคุณภาพสุดเพราะทำให้ครูได้ข้อมูลมากสุด เป็นการเขียนบรรยายในช่วงเวลาหนึ่งของกิจกรรม บันทึกตามความเป็นจริง
  • การบันทึกไม่ต่อเนื่อง  บันทึกเป็นข้อความสั้นๆขณะทำกิจกรรมในช่วงเวลาหนึ่ง
การเกิดพฤติกรรมบางอย่างมากเกินไป
  • ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง มากกว่าชนิดของความบกพร่อง
  • พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ

การตัดสินใจ
  •  ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
  •  พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่

กิจกรรมการร้องเพลง



การนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้
  1. ใช้ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษและเด็กปกติที่เรียนอยู่ในห้องเรียนรวม
  2. เข้าใจธรรมชาติของเด็กพิเศษ
  3. เข้าใจและปรับเปลี่ยนแก้ไขพฤติกรรมขอเด็กพิเศษ
  4. นำความรู้ไปบอกต่อแก่ผู้ที่ยังไม่รู้
  5. นำไปใช้ในการเป็นครูในอนาคต
  6. เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติในการเป็นครูในห้องเรียนรวมในอนาคต

ประเมินตนเอง
  1. เข้าเรียนตรงต่อเวลา ตั้งใจทำกิจกรรมภายในห้องเรียน
  2. แต่งกายเรียบร้อย
  3. วาดรูปดอกทานตะวันได้อย่างสวยงาม
  4. ตั้งใจจดบันทึกระหว่างเรียน
  5. ร้องเพลงได้อย่างไพเราะ
ประเมินเพื่อน
  1. เข้าเรียนตรงต่อเวลา
  2. แต่งกายเรียบร้อย
  3. ตั้งใจทำกิจกรรมการวาดภาพเหมือน
  4. ตั้งใจฟังอาจารย์สอนและตั้งใจร้องเพลงกันทุกคน
ประเมินอาจารย์
  1. อาจารย์เข้าสอนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อยน่ารัก
  2. มีกิจกรรมที่แปลกใหม่มาให้นักศึกษาทำ เป็นกิจกรรมที่ดีเพราะเป็นแนวทางในการเรียนรู้สู่การเรียนในหัวข้อบทบาทของครูปฐมวัย
  3. อาจารย์ตั้งใจสอนและอธิบายแต่ละเรื่องเข้าใจง่าย
  4. มีเพลงที่แปลกใหม่มาร้องให้นักศึกษาฟังซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น