บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี...27..มกราคม..2558...ครั้งที่...3..เวลาเรียน..08.30 - 12.20.... น
สิ่งที่ได้รับความรู้ในวันนี้
การเรียนการสอนในวันนี้เป็นการเรียนเรื่อง บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
ก่อนเข้าสู่การเรียน ได้ทำกิจกรรมการวาดภาพเหมือนโดยวาดภาพดอกทานตะวัน ที่บานสะพรั่งอยู่กางทุ่ง และดิฉันได้วาดภาพออกมาได้อย่างสวยงามแต่ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ค่ะ
การวาดภาพเหมือน ก็เปรียบเสมือนการเป็นครูที่มีเด็กพิเศษและเด็กปกติเรียนอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน ครูจะต้องเป็นผู้ที่เก็บลายละเอียดของเด็กได้เป็นอย่างดี เหมือนกับการวาดภาพเหมือน ที่เราจะต้องเก็บทุกลายละเอียดของภาพเพื่อที่จะให้เหมือนกับของจริง
เว็บแรกที่มองภาพ คุณเห็นอะไร???
แสงสีทอง สาดส่องทานตะวัน
เหมือนใจฉัน เบ่งบานอยู่กลางทุ่ง
ครูไม่ควรวินิจฉัย
- การวินิจฉัย หมายถึง การตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่าง
- จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
- เมื่อครูสงสัยก็ไม่ควรไปฟันธงเด็ก
- เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
- ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
- เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
- ทำให้เด็กรู้สึกแย่
- พ่อแม่ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
- พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
- ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก แต่ต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
- ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้ เช่น วันนี้น้องระบายสีได้ด้วยนะคะ แต่น้องกำสีแน่นเกินไปค่ะ
- ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
- ครูไม่ควรเชื่อผู้ปกครองว่าเด็กไม่ปกติ
- ครูไม่ควรเอาจุดด้อยของเด็กไปบอกพ่อแม่
- ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
- ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
- สังเกตเด็กอย่างมีระบบ ครูสังเกตเด็กเป็นระบบได้ดีเพราะครูอยู่กับเด็กตลอดเวลา เห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆระหว่างทำกิจกรรมและเห็นเด็กตั้งแต่เช้ายันเย็น
- จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆเช่น ระหว่างทำกิจกรรม
- มองเด็กให้เป็นภาพรวมก่อนเช่นมองน้องทามซัก 1 สัปดาห์ ค่อยมาบันทึก
- เมื่อเจอพฤติกรรมที่ต้องแก้ไข แก้ไขในสิ่งที่สำคัญสุด ,แก้ไขให้ตรงจุด,มองข้ามสิ่งเล็กน้อย เช่นนอนกอดตุ๊กตา
- ทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
- เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
- บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
- ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
- ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
- พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
- การนับอย่างง่ายๆ นับจากการทำพฤติกรรม เช่น 1 วันทำพฤติกรรมแบบนี้กี่ครั้ง
- การบันทึกต่อเนื่อง สำคัญสุดมีคุณภาพสุดเพราะทำให้ครูได้ข้อมูลมากสุด เป็นการเขียนบรรยายในช่วงเวลาหนึ่งของกิจกรรม บันทึกตามความเป็นจริง
- การบันทึกไม่ต่อเนื่อง บันทึกเป็นข้อความสั้นๆขณะทำกิจกรรมในช่วงเวลาหนึ่ง
- ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง มากกว่าชนิดของความบกพร่อง
- พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
การตัดสินใจ
- ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
- พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่
กิจกรรมการร้องเพลง
การนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้
- ใช้ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษและเด็กปกติที่เรียนอยู่ในห้องเรียนรวม
- เข้าใจธรรมชาติของเด็กพิเศษ
- เข้าใจและปรับเปลี่ยนแก้ไขพฤติกรรมขอเด็กพิเศษ
- นำความรู้ไปบอกต่อแก่ผู้ที่ยังไม่รู้
- นำไปใช้ในการเป็นครูในอนาคต
- เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติในการเป็นครูในห้องเรียนรวมในอนาคต
- เข้าเรียนตรงต่อเวลา ตั้งใจทำกิจกรรมภายในห้องเรียน
- แต่งกายเรียบร้อย
- วาดรูปดอกทานตะวันได้อย่างสวยงาม
- ตั้งใจจดบันทึกระหว่างเรียน
- ร้องเพลงได้อย่างไพเราะ
ประเมินเพื่อน
- เข้าเรียนตรงต่อเวลา
- แต่งกายเรียบร้อย
- ตั้งใจทำกิจกรรมการวาดภาพเหมือน
- ตั้งใจฟังอาจารย์สอนและตั้งใจร้องเพลงกันทุกคน
ประเมินอาจารย์
- อาจารย์เข้าสอนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อยน่ารัก
- มีกิจกรรมที่แปลกใหม่มาให้นักศึกษาทำ เป็นกิจกรรมที่ดีเพราะเป็นแนวทางในการเรียนรู้สู่การเรียนในหัวข้อบทบาทของครูปฐมวัย
- อาจารย์ตั้งใจสอนและอธิบายแต่ละเรื่องเข้าใจง่าย
- มีเพลงที่แปลกใหม่มาร้องให้นักศึกษาฟังซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น